วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

เหยื่อตกปลาที่ควรรู้จัก





       ผักชี เป็นผักที่มีกลิ่นฉุน ปลากินพืชหลายชนิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาตะเพียน วิธีใช้ เราจะเอาตัวเบ็ดเกี่ยวเข้ากับที่ขั้วก้านที่มีใบติดเป็นช่อ อาจจะปล่อยลอย หรือปล่อยแบบจมช้าก็ดี
       กล้วย เป็นเหยื่ออีกอย่างที่นิยมใช้ตกปลาบ่อเมื่อสัก 20 ปีก่อน โดยมากจะใช้กับปลาสวาย วิธีใช้ เราจะมีเข็มร้อยแทงสายลีดเข้าไปในกล้วยตัดท่อน ดึงจนตัวเบ็ดจะฝังกล้วย ตรงนี้เราจะเอาเปลือกกล้วยชิ้นเล็กๆเกี่ยวเบ็ดรองกันแรงกระชากตอนเหวี่ยง จะทำให้เหวี่ยงเบ็ดง่ายขึ้น
       มันเทศ เป็นเหยื่อที่ก่อนใช้จะต้องนำไปต้มให้นิ่มก่อน ใช้ได้ผลดีกับปลาตระกูลปลาไน ถ้าใช้ตกปลาไนในแหล่งน้ำไหลในธรรมชาติ ก็ไม่ต้องต้มให้สุกมาก แล้วหั่นเป็นทรงลูกเต๋า ร้อยเข้าไปในลีดเดอร์ 2-3 ชิ้นคล้ายกับร้อยกล้วย ส่วนหากตกในแหล่งน้ำนิ่งก็จะต้มให้สุกแล้วทำมันบดปั้นขนาดไม่ต้องใหญ่มาก ก็น่าจะได้ผลดี
       ผลไม้สุก การใช้ผลไม้นี้ก็ต้องดูตามฤดูกาลด้วย นอกจากมะละกอที่นำมาเสนอเป็นตัวอย่างแล้ว ลูกไม้อย่างอื่นๆ เช่น มะเขือเทศ ละมุด ฯลฯ ก็ให้ผลดีเหมือนกัน วิธีใช้ก็ร้อยเข้าลีดเดอร์เหมือนกันกับกล้วย





       เหยื่อปลากินพืช ที่ได้รับการปรุงแต่งสภาพแล้ว เช่น
       รำข้าว เป็นเหยื่อที่นักตกปลาคุ้นชินกันดี นักตกปลาที่ใส่ใจกับเหยื่อมากๆ บางที่ต้องการแต่รำข้าวที่คัดสายพันธุ์มาแล้ว เช่นรำของข้าวหอมมะลิ แล้วยังต้องร่อนผ่านตะแกรงเพื่อให้ได้เหยื่อที่ละเอียด บางทีก็เอาไปคั่วไฟให้หอมอีกด้วย
       วิธีใช้ โดยมากก็จะปั้นเข้ากับตระกร้อ หรือจะนวดให้พอให้เหนียวปั้นกับตัวเบ็ดติดก็ได้
       ขนมปัง นี่ก็เป็นเหยื่ออีกอย่างที่นักตกปลาคุ้นเคย นักตกปลาที่ใส่ใจกับรายละเอียด ก็มักจะแยกใช้ระหว่างขอบขนมปังกับส่วนที่เป็นขนมปังขาว บ้างก็เอาไปปั่นให้ละเอียด หรือบางทีก็เอาแต่ขอบไปกอบกับตะกร้อก็แล้วแต่ความถนัดและความเชื่อมั่น
        ข้าวเหนียวนึ่ง เหยื่ออีกประเภทหนึ่งที่ใช้ได้ผลดีกับปลาบ่อ วิธีใช้ก็ปั้นข้าวเหนียวเป็นลูกเล็กๆ แล้วนำไปกอบรวมเข้ากับตัวเบ็ด ใช้ได้ผลดีกับปลาสวาย และปลาบึกตามบ่อ
       ขนมถ้วยฟู ขนมไทยหลายอย่างก็ใช้ได้ผลกับปลาสวายตามบ่อเช่นกัน วิธีใช้ขนมถ้วยฟูก็ให้เกี่ยวคล้ายกับกล้วย จะใช้ขอบขนมปังรองเป็นตัวกันเหยื่อแตกก็เหมาะสมดี
       ขนมกล้วย เหยื่อนี้สำหรับมือตกปลาแม่น้ำคงคุ้นเคยดีอยู่ ข้อดีของขนมกล้วยคือเนื้อจะเนื้อกว่าขนมถ้วยฟูทำให้ทนทานดีในน้ำไหล วิธีใช้คือหั่นเป็นทรงลูกเต๋าแล้วก็ร้อยเข้ากับลีดเดอร์คล้ายกับมันเทศต้ม
       เส้นก๋วยเตี๋ยว นี่ก็เป็นเหยื่ออีกหนึ่งอย่าง ที่นักตกปลาแม่น้ำนิยมใช้กัน วิธีใช้ ม้วนเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เป็นหลอด แล้วร้อยเข้ากับลีดเดอร์ ใช้ได้ผลดีกับสวายแม่น้ำอย่างเหลือเชื่อ







       กุ้งฝอย เป็นเหยื่อที่เหมาะต่อปลากินเนื้อขนาดเล็ก อาจเป็นอาหารแรกเริ่มที่พ่อ-แม่ปลาใช้สอนให้ลูกรู้จักการล่้า และนอกจากปลาเล็กแล้ว บางทีปลาใหญ่ก็เข้าฉวยเหมือนกัน
       วิธีเกี่ยว โดยมากกุ้งฝอยจะถูกใช้ในลักษณะเป็นเหยื่อตายเสียมากกว่า วิธีเกี่ยวก็จะเกี่ยวที่กลางตัวกุ้งหนึ่งตะขอเบ็ดจะเกี่ยวกุ้งฝอยไว้หลายตัว หรือหากกุ้งฝอยใหญ่พอจะเกี่ยวกุ้งเป็นตัวเดียวก็ได้ผลดีเหมือนกัน

        กุ้งดีดขัน สำหรับมือตกปลาในแม่น้ำบางปะกงคงรู้จักกันดี เป็นเหยื่อที่ใช้สำหรับตกปลาม้า ปลาดุกทะเล ขนาดตัวกุ้งที่เหมาะต่อการใช้อยู่ที่ 4-6 ซม.
       วิธีเกี่ยว ใช้ตัวเบ็ดฝังลงในกุ้งที่บริเวณปล้องใกล้กับข้อหาง เกี่ยวจากท้องสวนขึ้นมาทางหลัง ใช้สายลีดเดอร์ประมาณ 20-25 ซม.

        แมลงแกลบ เหยื่อยอดฮิตอีกอย่างหนึ่งที่ใช้ตกปลาหมอได้ค่อนข้างดี เป็นเหยื่อที่ผมไม่ค่อยจะได้เห็นใครใช้มานานแล้ว แต่เชื่อว่าหากเจอและนำมาใช้ก็น่าจะให้ผลดีอยู่เช่นเดิม
       วิธีเกี่ยว ใช้ตัวเบ็ดฝังลงที่ตรงอก หรือปล้องส่วนหางก็ได้

       แมลงสาบขาว เป็นแมลงสาบที่ลอกคราบออกมาใหม่ๆและยังไม่กลับสีเป็นสีแดง แมลงสาบขาวนี้ยังไม่มีกลิ่นเหม็นสาบสักเท่าไหร่ ใช้ได้ผลดีกับปลาหมอ ปลานิล และปลากินซาก เช่น ปลากด ปลาดุก
       วิธีเกี่ยว เกี่ยวคล้ายกับแมลงแกลบ

       จิ้งหรีด เป็นเหยื่อแมลงอีกอย่างหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงไว้เพื่อเป็นอาหารปลา จึงทำให้หาซื้อได้ไม่ยาก เหมาะต่อการใช้ตกปลาหมอ ปลานิล
       วิธีเกี่ยว เกี่ยวคล้ายกับแมลงแกลบ

       ไส้เดือน เป็นสุดยอดของเหยื่ออีกอย่างหนึ่ง ในเกือบทุกวัฒนธรรมการตกปลาทั่วโลกยอมรับและใช้ไส้เดือนเป็นเหยื่อ ตกปลาได้สารพัดชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปลากินพืช ปลากินเนื้อ หรือว่าปลากินซาก
       วิธีเกี่ยว ใช้ได้ทั้งแบบเกี่ยวตัวเดียว และเกี่ยวเป็นพวง หากใช้เกี่ยวตัวเดียว ควรเกี่ยวทั้งตัว ไม่ควรแบ่งใช้เป็นท่อน ที่สำคัญควรปล่อยให้มีหางยาวกระดุกกระดิกจะเรียกความสนใจจากปลาได้ดีกว่า

       ลูกปลานิล เหยื่อของปลากินเนื้ออีกอย่างที่หาใช้ได้ง่าย และให้ผลดี เหมาะต่อการใช้ตก ปลาช่อน ปลากะพง
       วิธีเกี่ยว หากเหยื่อตัวใหญ่หน่อย ก็จะเกี่ยวที่บริเวณใต้ครีบหลังค่อนมาทางหัว แต่หากว่าเหยื่อตัวเล็กก็จะเกี่ยวให้ค่อนมาทางหาง

       ลูกปลาคราฟ ด้วยสีของปลาที่แปลกไปจากปลาทั่วไป ทำให้ปลาคราฟมีจุดเด่นที่ปลากินเนื้อเห็นได้ง่าย อีกทั้งยังมีเพาะขายไว้เพื่อเป็นเหยื่อให้กับปลาใหญ่อยู่แล้ว จึงไม่ยากที่จะซื้อหา ใช้ได้ผลดีกับ ปลาช่อน ปลาชะโด ปลากะพง ฯลฯ
       วิธีเกี่ยว เกี่ยวเหมือนกับปลานิล












วิธีการพันเหยื่อหมักกับตัวเบ็ด
        เหยื่อหมัก เป็นสุดยอดของเหยื่อสำหรับตกปลากินซาก ในอดีตถือเป็นว่าเป็นเหยื่อที่มีความผูกพันกับความเชื่อและอาถรรพ์ด้วย เช่น เหยื่อจะให้ได้ผลต้องทำที่ทางสามแพร่งในคืนพระจันทร์เต็มดวง หรือขณะที่ทำหรือใช้ห้ามบ่นว่าเหม็นเพราะอาจจะทำให้เหยื่อหมักนั้นปลาไม่กิน เป็นต้น
       เหยื่อหมักเป็นเหยื่อที่เกิดจากการหมักเนื้อปลา ไขมันสัตว์ แล้วมีนุ่นเป็นตัวประสาน วิธีใช้ จะใช้เหยื่อหมักพันรอบๆตัวเบ็ด ข้อแนะนำ ควรใช้ถุงมือขณะจับเหยื่อ

       เหยื่อดอง เป็นเหยื่อที่มีคุณสมบัติคล้ายกับเหยื่อหมักแต่จะมีกลิ่นที่รุนแรงน้อยกว่า โดยมากเหยื่อดองจะเป็นเหยื่อที่ทำจากหมู3ชั้น แช่ในน้ำปลา ใช้ได้ผลดีกับ ปลาดุก ปลากด และบางทีตะพาบก็กินเบ็ดด้วย
       วิธีเกี่ยวเหยื่อ จะเกี่ยวเข้าคมเบ็ดพับไปพับมาแล้วเหลือหางให้พริ้วยาวเล็กน้อย
        สบู่ เป็นเหยื่อที่ไม่ค่อยได้เห็นใครใช้มานานพอสมควร แต่บังเอิญได้ดูรายการที่ฝรั่งไปตกปลาในแอฟริกา เห็นในรายการนั้นเค้าใช้สบู่สำหรับวางเบ็ดราว ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าสบู่ก็ใช้ตกปลากินซากได้ดีอยู่เหมือนกัน
       วิธีเกี่ยว จะหั่นสบู่ออกมาเป็นก้อนขนาดประมาณ 1 ลูกบาศก์นิ้ว แล้วเกี่ยวเข้าที่กลางก้อน ใช้ได้ผลดีกับปลาดุก
       ไส้ไก่และเครื่องในไก่ เป็นอีกหนึ่งเหยื่อคลาสสิคที่ยังใช้ได้ผลดีมาจนถึงปัจจุบัน เหมาะสำหรับตกปลาแม่น้ำ โดยมากก็จะได้ผลกับ ปลาสวาย ปลาสังกะวาด ปลาแขยง ฯลฯ
       วิธีเกี่ยว ถ้าในกรณีที่หวังปลาใหญ่ก็จะเกี่ยวทั้งพวง แต่ถ้าใช้ตกทั่วไปก็จะหั่นออกเป็นส่วนๆ เกี่ยวเข้าที่ตัวเบ็ดแล้วใช้ด้ายมัดพวงไส้ไว้ที่หูเบ็ดก็ได้ ในส่วนเป็นเครื่องในส่วนอื่นๆ เช่น ตับ ก็เกี่ยวทะลุไว้ทั้งก้อนก็จะใช้ได้ผลดี

       เหยื่อสำหรับปลากินซากนั้น กลิ่นและไขมันจะเป็นตัวเรียกปลาให้เข้าหาเบ็ดได้ดีที่สุด อ่อ แล้วโดยมากปลากินซากนี้จะหากินตอนกลางคืนนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

ปลาล่าเหยื่อแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตกได้ด้วยเหยื่อปลอม


1. ปลากระสูบ   เหยื่อที่ใช้ก็ สปูน ปลายาง  ปลํกดำตื้นดำลึกยี่ห้อต่างๆ แอคชั่นเหยื่อส่ายแคบๆ ถ้าปลาไม่เคยโดนเบ็ดสีอะไรก็ได้ครับ ถ้าเคยโดนแล้วเลือกสีข้างเงินหลังดำหรือหลังเทาหรือเหลืองดีกว่าครับ ขนาด 5 - 7 cm ผมเคยบอกน้องๆที่ปตกปลาด้วยกันเสมอครับว่า เวลาซื้อปล๊กมาใช้ที่เจ้าพระยานี่ให้เลือกสีเหมือนลูกปลาซิวที่สุดมันจะใช้ได้นาน หลอกปลาได้หลากหลาย ไอ้เขียวๆแดงนี่ไปหมายที่ปลาโดนมาโขกโชนนี่ไม่ต้องเอามาเลย  ป็อปเปอร์นี่สีอะไรก็ใช้ได้ผลครับกับปลายังไม่เคยโดนเหยื่อปลอม ถ้าเคยโดนแล้วให้เลือกท้องขาวไว้ก่อนหลังสีอะไรช่างมัน หรือสีออกใสหรือเหลือบก็ใช้ได้ผลครับ  แต่ถ้าปลาเข็ดเบ็ดแล้วจะไม่กัดปลั๊กชนิดต่างแล้ว ให้ใช้แบบสติ๊กหรือแบบแท่งๆจะเป็นพลาสติกหรือแบบยางเลยครับ สร้างแอคชั่นเหมือนปลาหนีตาย รับรองโดนแน่ๆครับ ที่ไหนเขี้ยวๆโดนแบบแท่งเข้าไปไม่รอดสักตัว 

ทำเลที่เหมาะ ก็ตามตอม่อสะพาน ริมเขื่อนปูนกันตลิ่ง คุ้งน้ำ หรือที่มีตอหรือหินใต้น้ำครับ ท้ายเรือเหล็กขนาดใหญ่ที่จอดตามริมแม่น้ำ ประตูน้ำต่างๆ

คันเบ็ด ตามชอบเลยครับ ปลาชนิดนี้ปากค่อนข้างเหนียวไม่ฉีกขาดง่าย

การเซ็ตเบรค  ค่อนข้างหนักไว้ก่อนเป็นดีครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตก   เช้าหรือเย็นครับ ปลาจะขึ้นน้ำไล่ลูกปลาจนเห็นได้ชัดเจน เราจะได้ตัวง่ายที่สุดกว่าช่วงเวลาอื่น ช่วงเวลาอื่นก็กินนะครับ เพียงแต่เราจะได้ตัวมันยากกว่าเท่านั้น


การประกอบอาหาร  เนื้อปลาค่อนข้างนิ่ม มีก้างฝอยแทรกเป็นจำนวนมาก  จึงนิยมมาทำลาบกระสูบกันครับ ลาบรสจัดโรยด้วยเกล็ดปลาทอดจนกรอบ รสชาดดีทีเดียวครับ นอกนั้นก็มาทำต้มเค็ม รองด้วยอ้อยใส่ส้มมะขามหรือมะขามเปียกนิดหน่อย เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆจนก้างเปื่อย ก็อร่อยครับ ต้มส้มก็ดี ทอดกรอบผัดกับใบคึ่นช่ายหรือตั้งโอ๋ก็อร่อยครับ




2. ปลาเบี้ยว หรือ คางเบือน   เป็นปลาล่าเหยื่อที่อาศัยอยู่ในระดับน้าค่อนข้างลึกเป็นปลาที่มีขนาดโตเต็มที่ค่อนข้างใหญ่ที่ตกได้ทั่วไปก็มีขนาดที่ 1 - 4 kg  ล่าเหยื่อใต้น้ำ จะขึ้นล่าผิวน้ำบ้างเป็นบางเวลาเช่นตอนเช้าหรือเย็นใกล้พลบค่ำ สามารถตกได้ทั้งวันถึงช่วงหัวค่ำ 

เหยื่อที่ใช้ก็ ถ้าเป็นช่วงเช้าหรือเย็นใกล้ค่ำปลั๊กผิวน้ำๆก็กัดครับ หรือจะเป็นปลั๊กดำลึกที่มีช่วงหางส่ายแบบแคบๆ ลำตัวเหยื่อขนานกับพื้นเวลาสร้างแอคชั่น(อันนี้ขึ้นอยู่กับประสพการณ์ของผู้ใช้)ประเภทเหยื่อหัวทิ่มเหมือนลูกปลาไซร้หน้าดินเวลาสร้างแอคชั่น ผมยังไม่เคยได้ปลาด้วยเหยื่อแบบนี้เลยครับ เลือกสีเหมือนลูกปลาซิวครับ ข้างเงินหลังเหลืองหรือดำก็ใช้ได้ครับ ข้างเงินนี่เวลาลงไปใต้น้ำช่วงแดดจัดมันจะสะท้อนแสงดึงดูดปลาได้ดีกว่า ปลายางก็ใช้ได้ดีครับใช้ที่มีตอใต้น้ำแต่จะเสียเหยื่อเป็นจำนานมากเนื่องจากเราคุมระดับความลึกในที่น้ำไหลแรงได้ยากกว่าปลั๊กนั่นเอง

ทำเลที่เหมาะ ตามเขื่อนปูนที่มีระดับน้ำค่อนข้างลึก คุ้งน้ำ ตอม่อสะพาน ท้ายเรือเหล็กขนาดใหญ่ที่จอดริมแม่น้ำ ประตูน้ำที่ติดเจ้าพระยาต่างๆ


คันเบ็ดเลือกแอคชั่นที่ค่อนข้างอ่อนหน่อยครับเช่น ML M 8 - 14 ปอนด์กำลังสวย ปลาชนิดนี้มีหนังบางโดยมากถ้าสร้างแอคชั่นไม่ถูกแล้วปลาจะกัดไม่ทันจะโฉบมาโดนเบ็ดเกี่ยวลำตัวซะมากกว่าถ้าคันแข็งเกินไปแล้วเซ็ตเบรคหนักอีกเวลาสู้ปลาหนังปลาจะฉีกไม่ได้ตัว หรือถ้าปลากัดเหยื่อเข้าปากก็ตามปากปลาชนิดนี้ค่อนข้างแข็งโดยมากเบ็ดจะไม่ทะลุปากปลา เวลาปลาติดเบ็ดเข้าปากปลาจะอ้าปากสะบัดเหยื่อออกอย่างรุนแรงถ้าคันแข็งเกินไปและเซ็ตเเบรคแน่นเกินไปปลาจะสะบัดหลุดจากเหเยื่อได้ง่าย  บางท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมไม่วัดปลาล่ะเบ็ดจะได้ทะลุปากปลา คำตอบมีครับ ในระดับน้ำที่ลึกขนาดนั้นเราไม่มีทางรู้ได้ว่าเหยื่อเราอยู่ในปากปลาหรือเกี่ยวลำตัวของมัน เอาเป็นว่าถ้าจะเอาตัวมันแบบชัวร์ๆเลือกคันอ่อนๆไว้ก่อนดีกว่าครับ บางท่านอาจกลัวมันเข้าตอ ปลาชนิดนี้ไม่มุดตอเหมือนปลากดหรอกครับอาศัยทักษะการคอนโทรลปลาให้เป็นนิดหน่อยเราจะบังคับปลาให้ไปทิศทางที่เราต้องการได้ครับ

การเซ็ตเบรค ค่อนข้างอ่อนนะครับให้ปลาลากออกไปได้ สักพักมันก็หมดแรงยองขึ้นมาผิวน้ำเองละครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตก ทั้งวันตั้งแต่เช้าจนถึงพลบค่ำเลยครับ

การประกอบอาหาร  ปลาเบี้ยวชนิดนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะหากินได้ง่ายๆนะครับ ต้องมีลาภปากด้วยเนื่องจากต้องมีคนเอามาขายด้วย จากเท่าที่รู้ยังไม่มีการเพาะเลี้ยงปลาชนิดนี้กัน จะมีขายกันบ้างก็หายากเต็มทีที่ติดเครื่องมือประมงชาวบ้านขึ้นมา ฉะนั้นในตลาดที่พบเห็นกันจะมาจากประเทศเพื่อนบ้านเรานั่นเอง ราคาขายแถวปทุมนี่ราคา 200 กว่าบาทขึ้นไปต่อกิโลครับ ปลาเบี้ยวเป็นปลาที่มีเนื้อค่อนข้างนิ่มรสชาดดีไม่มีก้างฝอยแทรกในเนื้อ ไม่นิยมไปนึ่งหรือต้มกันครับเพราะหากต้มนานเกินไปเนื้อปลาจะเละ นิยมมาทำแกงฉู่ฉีกัน บั้งเนื้อปลาให้ไม่ขาดพอให้รสชาดของน้ำพริกแกงแทรกในเนื้อปลาได้อร่อยทีเดียวครับ หรือจะมาบั้งทอกจนเหลือง จิ้มกับน้าปลาบีบมะนาวซอยหอมแดงและพริกขี้หนูใส่ลงไปกินกับข้าวสวยร้อนๆสุดยอดเลยครับ หรืออีกเมนูหนึ่ง บั้งปลาไม่ต้องถี่ทอดจนเหลืองกรอบนำมาราดด้วยพริกสามรส รสชาดออกเค็ม หวานนิด เปรี้ยวหน่อย เป็นปลาเบี้ยวทอดรอบราดพริกสามรส คิดถึงเมนูนี้ทีไรชวนให้หิวข้าวทุกทีครับ



3.ปลาเนื้ออ่อน  4.ปลาแดง  5. ปลาน้ำเงิน     ที่ผมน้ำทั้งหมดมาไว้หมวดเดียวกันเนื่องจากมันอยู่ในวงศ์ปลาเนื้ออ่อนเหมือนกัน วิธีตกก็เหมือนกัน ปลาชนิดนี้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกันมากแทบแยกไม่ออก มีวิธีดูว่าเป็นปลาชนิดใดคร่าวๆดังนี้ครับ ปลาเนื้ออ่อนจะมีขนาดเล็กที่สุดลำตัวมีสีขาวใส ปลาแดงจะมีขนาดโตขึ้นมาอีก สีของลำตัวขาวใสเหมือนกันหากสังเกตุดูดีๆจะเห็นว่าจะมีเยื่อบางๆสะท้อนแสงสีออกแดงจางๆที่ข้างลำตัวและหลังยิ่งโตสีที่เห็นก็จะชัดขึ้น ส่วนปลาน้ำเงินจะมีขนาดโตที่สุดในสามตัวนี้ สีที่เห็นจะเป็นสีเทาอมฟ้าจางๆ ยิ่งโตสีที่เห็นจะยิ่งชัดขึ้นครับขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยตกได้กว่า 3 kg ครับสำหรับปลาน้ำเงิน

เหยื่อที่ใช้  ปลาชนิดนี้เป็นปลาหากินน้ำลึกบริเวณหน้าดินถึงกลางน้ำลึก เหยื่อที่ใช้เหมือนกับตกปลาเบี้ยวนั่นแหละครับเพียงแต่ต้องช้ากว่า ลึกกว่า นั่นหมายถึงโอกาสติดตอสูงมากครับกว่าจะได้แต่ละตัว

ทำเลที่เหมาะในการตก  คุ้งน้ำลึก ตอม่อสะพาน

คันเบ็ดเลือกแบบเดียวกับที่ใช้ตกปลาเบี้ยวละครับ 

การเซ็ตเบรค แบบเดียวกับปลาเบี้ยวเลยครับ

เวลามี่เหมาะสมในการตก ทั้งวันดีที่สุดตอนเย็นใกล้ค่ำจะกัดเหยื่อดีที่สุด

การประกอบอาหาร  ปลาน้าเงินมีเนื้อรสชาดดีที่สุดและราคาแพงที่สุดในกลุ่มครับ ที่ปทุมซื้อขายกันกิโลละกว่า 300 บาทสำหรับปลาแม่น้ำ ทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งทอดราดพริก 3 รส ฉู่ฉี่ก็อร่อย ทอดจิ้มน้ำปลาพริกขี้หนูกับข้าวสวยร้อนๆ นี่ก็สุดยอด สำหรับปลาเนื้อ่อนนี่นำมาเสียบไม้รมควันแล้วเอามาต้มโคล้งซดน้ำคล่องคอดีครับ


6. ปลากดเหลือง และกดคัง    เป็นปลาล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ตามตอและต้นไม้ล้มใต้น้ำ โพรงเสาตอม่อสะพาน ขนาดใหญ่ที่เคยเห็นคนแภถวนี้ตกได้ด้วยเหยื่อสด 42 kg 2-3 ฉะนั้นหากคิดจะตกมันอย่าประมาทมันเด็ดขาด

เหยื่อที่ใช้  ปลาชนิดนี้ออกหากินเวลากลางคืนถึงจะออกจากโพรงออกมาหากินลูกปลาที่มีขนาดเล็กกว่า กินกลางน้ำถึงหน้าดิน เหยื่อที่ใช้ต้องดำลึกแอคชั่นค่อนข้างช้าสีอะไรก็ได้ครับถ้าเป็นกลางคืนปลาชนิดนี้ใช้หนวดจับแรงสั่นสะเทือนได้ดีครับ สร้างแรงสั่นสะทือนใต้น้ำได้ดี จะเป็นปลั๊กดำลึกก็ได้ ปลายางขนาดโตๆหน่อย สปูนก็พอได้แต่โอกาสได้ตัวค่อนข้างน้อยไม่เหมือนปลั๊ก ถ้าเป็นตอนกลางวันจะตกมันต้องเอาเหยื่อลงไปใกล้ที่มันอยู่มากที่สุดถึงจะกัดเหยื่อ นั่นหมายถึงโอกาสติดตอมีสูงมากกกกกกกก  ตกมันตอนเย็นใกล้ค่ำจนถึงเช้าดีกว่าครับ ปลาที่ตกได้จะมีขนาด 1 - 5 kg แต่โอกาสผิดคิวเจอเจ้ายักษ์มีได้ตลอดเวลาครับ

ทำเลที่เหมาะสมในการตก ตอนกลางคืนชายตลิ่งบริเวณน้ำวน ท้ายประตูน้ำที่ติดกับเจ้าพระยา ตอม่อสะพาน ท้ายเรือเหล็กขนาดใหญ่ที่จอด คุ้งน้ำลึก

คันเบ็ดที่เหมาะสม เลือกเวท MH ขึ้นไปครับ หรือ 12 - 25 ขึ้นไป สาย ไดนีม่า 30 lb ขึ้นไปถึงจะอุ่นใจ

การเซ็ตเบรค เบรคหนักๆครับอย่าให้มันมุดได้ไม่งั้นเข้าตอแน่ๆ ทั้งนี้ทั้งสายและคันต้องไหวด้วยนะครับ

เวลาที่เหมาสมในการตก ใกล้ค่ำจนถึงเช้ามืดครับ

การประกอบอาหาร เนื้อปลากดมีรสชาดดีมากครับ ไม่มีก้างฝอยแทรกในเนื้อ ซื้อขายกันแถวปทุมกิโลละ 150 บาทชึ้นไป นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง ที่นิยมกันมากก็ลวกจิ้มนี่ละครับ แกงคั่วกับหน่อไม้ดองนี่ก็อร่อย แกงป่าปลากดก็ดี ต้มยำรสจัดนี่ก็สุดยอดเหมือนกัน





7. ปลาค้าว  ปลาชนิดนี้หากินตามคุ้งน้ำ ตามตอหรือตอไม้ล้มใต้น้ำต่างๆเป็นปลาที่หากินกลางน้ำถึงผิวน้ำ

เหยื่อที่ใช้เป็นปลั๊กดำตื้นหรือลึกก็ได้ครับขนาด7cmเป็นต้นไปสีของเหยื่อออกช้างเงินเงาหลังเหลืองหรือเทาหรือดำจะใช้ได้ผลดีในเวลากลางวัน ถ้าตอนกลางคืนใช้สีอะไรก้ได้ครับ เพราะเวลากลางคืนมันจะใช้หนวดและเส้นข้างลำตัวในการรับรู้แรงสั่นสะเทือนของเหยื่อ แอคชั่นของเหยื่อค่อนข้างช้าครับถึงจะได้ผลดี ปลาที่ตกได้ส่วนมากจะมีขนาด 3 kgขึ้นไป

ทำเลที่เหมาะสมในการตก ตามคุ้งน้ำ ตอม่อสสะพาน

คันเบ็ดที่เหมาะสม เลือกเวท 10 - 20 ขึ้นไปนะครับเพราะโอกาสผิดคิวเจอตัวใหญ่ๆเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาที่เจ้าพระยาแห่งนี้

การเซ็ตเบรค พอตึงๆก็พอครับเจอของใหญ่ค่อยเพิ่มกำลังเบรคเอาครับ

เวลาที่เหมาะสมในการตก  ตกได้ทั้งวันครับต้องไปใกล้ที่อยู่ของมันจริงๆถึงจะได้ตัว แต่ถ้าเป็นกลางคืนโอกาสได้ตัวมีสูงมากครับ มันจะไล่ฮุบลูกปลาให้เห็น เราจะรู้ตำแหน่งมันได้ง่ายกว่าไปควานหามัน

การประกอบอาหาร  ปลาค้าวเป็นปลาที่มีรสชาดดีน้อยที่สุดในกลุ่มปลาเนื้ออ่อน ที่ปทุมขายกันโลละร้อยกว่าบาท นิยมไปแกงเผ็ดกับหน่อไม้ดองกันครับ




8. ปลาม้า  เป็นปลาที่หากินหน้าดินครับ จะโจมตีเหยื่อโดยวิธีสูบเหยื่อเข้าปาก กลางวันจะอยู่ในระดับน้าที่ลึก กลางคืนจะหากินริมตลิ่งที่เป็นโคลน

เหยื่อที่ใช้  กลางวันมันจะหากินหน้าดินในระดับน้ำที่ลึกมาก เหยื่อที่ใช้ได้ผลเป็นหัวจิ๊กปลายางที่มีน้ำหนักมากหน่อย 10 กรัมขึ้นไป หรือปลายางเบ็ดหลังก็ได้ครับ อย่าใช้ปลายางเบ็ดท้องเด็ดขาด เพราะทันทีที่หย่อนลงหน้าดินเหยื่อจะติดตอโอกาสเสียเหยื่อสูงมากกกกกกก ถ้าเป็นกลางคืน ปลาจะขึ้นมาหากินริมตลิ่ง ให้ใช้หัวจิ๊กปลายางขนาด 5 - 7 กรัมก็เพียงพอ สร้างแอคชั่นค่อนข้างช้าปลาที่ตกได้ส่วนใหญ่มีขนาด ครึ่งโลถึง3กิโลครับ

ทำเลที่เหมาะสมในการตก กลางวันตามตอม่อสะพาน กลางคืนตามริมตลิ่งที่พื้นเป็นโคลน

คันเบ็ดที่เหมาะสม ควรเป็นคันที่มีเซนต์คันที่ดี รับรู้ความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านมาจากปลายสายที่แม่นยำ จะทำให้วัดปลาได้ถูกจังหวะและมีโอกาสได้ตัวสูง ปลาชนิดนี้จะสูบเหยื่อเบามากครับถ้าเซนท์คันไม่ดีแล้วโอกาสได้ตัวแทบไม่มีเลยละครับ เวทสัก 8 - 14 ก็เหลือๆแล้ว

การเซ็ตเบรค ปลาชนิดนี้มีปากค่อนข้างบาง เอาแค่พอตึงๆก็พอครับ

เวลาที่เหมาะสมในการตก ทั้งวันครับขอให้น้ำไหลก็พอ ตอนกลางคืนจะได้ผลดีที่สุด 

การประกอบอาหาร ปลาม้าเป็นปลาเนื้อดีครับ เนื้อค่อนข้างนิ่ม  นิยมมาทำปลาม้านึ่งมะนาว หรือต้มยำรสจัดก็อร่อยครับ



9.ปลาเทโพ 10 . ปลาเทพา     เป็นปลาที่อยู่ในวงศ์เดียวกันครับ วิธีการกินเหยื่อเหมือนกันครับเลยเอามารวมไว้ด้วยกัน (ขอยืมภาพพี่ติ๊ก เมืองเอกเป็นนายแบบหน่อยนะครับ) รูปของผมไม่มีครับอยู่ในคอมเครื่องเก่าโดนไวรัสเล่นงาน พอลงโปรแกรมใหม่ภาพหายไปหมดเลยครับ ปลาทั้งสองชนิดนี้จะอาศัยอยู่ตามแหล่งที่น้ำไหล หากินระดับกลางน้ำ

เหยื่อที่ใช้  เป็นปลั๊กกลางน้ำหรือดำลึกครับ ขนาด9cm ขึ้นไปกำลังสวย สีเหมือนลูกปลาจะดีที่สุดครับ

ทำเลที่เหมาะสมในการตก   คุ้งน้ำ ปากคลองที่มีน้ำไหล

คันเบ็ดที่เหมาะสม  แข็งๆหน่อนก็ดีครับสัก 10 - 20 ปอนด์ขึ้นไปครับ เพราะที่เจ้าพระยานี่ เทโพ 10 โลขึ้นนี่ไม่ใช่เรื่องแปลก

การเซ็ตเบรค  ตึงมือหน่อยนะครับ ปลาชนิดนี้มีปากที่เหนียวไม่ต้องกลัวครับ

เวลาที่เหมาะสมในการตก ทั้งวันเลยครับ ขอให้น้ำไหลก็พอ

การประกอบอาหาร  เป็นปลาที่มีเนื้อมากไม่มีก้างแทรกในเนื้อ นิยมเอามาผัดเผ็ด หรือแกงกับหน่อไม้ดองก็ดีครับ




11. ปลาลิ้นหมา  เป็นปลาที่อาศัยหากินอยู่หน้าดิน กินตัวอ่อนของปลาและลูกกุ้งเป็นอาหาร  ตัวขนาดไม่โตเท่าไรครับ 
เหยื่อที่ใช้ ใช้เบ็ดซาบิกิที่มีภู่เรืองแสงขนาดเล็ก ตีลงไประดับกลางน้ำค่อนข้างลึก สร้างแอคชั่นค่อนข้างช้า ปลาลิ้นหมาจะมากัดเหยื่อคราวละหลายตัว

ทำเลที่เหมาะในการตก  ตามคุ้งน้ำ

คันเบ็ด เลือกเวทอ่อนๆครับจะตกสนุกมาก สัก 4 - 12 ปอนด์กำลังสนุก

การเซ็ตเบรค เอาแค่หนืดๆก็พอครับ

ช่วงเวลาเหมาะสมในการตก ทั้งวันเลยครับ

การประกอบอาหาร นำมาทำเค็มตากแห้ง หรือเอามาคลุกเกลือแล้วทอดให้กรอบ กินกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยมากครับ





12. ปลาแป้น หรือปลาข้าวเม่า  เป็นปลาที่หากินในระดับค่อนข้างลึก กินลูกกุ้งลูกปลาเล็กๆเป็นอาหาร ตัวมีขนาดไม่โตมากเท่าที่ตกได้จะมีขนาดเท่ากับฝ่ามือ

เหยื่อที่ใช้  เป็นปลายางขนากเล็ก หรือ เหยื่อกุ้งจิ๊กขนาดเล็กเลือกสีเงินเงาไว้ก่อนนะครับ ใสๆก็ใช้ได้แต่จะได้ตัวช้ากว่า สร้างแอคชั่นสั้นๆถี่ๆ ปลาแป้นจะมากัดเหยื่อครับ

ทำเลที่เหมาะ  ตามคุ้งน้ำ ตอม่อสะพาน

คันเบ็ด เวทอ่อนๆหน่อย 4 - 12 ปอนด์ เซนต์คันต้องดีนะครับ ไม่งั๊นไม่ได้ตัวมันแน่นอน

การเซ็ตเบรค แค่หนืดๆก็พอครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตก ทั้งวันครับยกเว้นกลางคืน

การประกอบอาหาร  ปลาแป้นเป็นปลาเนื้อดีอีกตัว นิยมมาบั้งแล้วทอดจนเหลือง จิ้มน้ำปลามะนาวซอยพริกขี้หนูและหอมแดงลงไป กินกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยมากครับ





13. ปลาแปปควาย   เป็นปลาล่าเหยื่อระดับผิวน้ำครับ จะต้อนลูกปลาจากข้างล่างมากินระดับผิวน้ำ หากินเป็นฝูง

เหยื่อทีใช้  เป็นปลั๊กขนาดเล็กดำตื้น หรือ เหยื่อแบบสติ๊กขนาดเล็ก สีเงินเงาเหมือนลูกปลาซิวจะได้ผลดีมากครับ สร้างแอคชั่นรวดเร็วบนผิวน้ำ หรือจะใช้เบ็ดซาบิกิมีภู่เรืองแสงพ่วงท้ายป็อปเปอร์ขนาดใหญ่ก็ได้ผลดีครับ แอคชั่นใช้ป็อปแบบเร็วๆครับปลาแปปควายจะติดเบ็ดทีละหลายตัว

คันเบ็ด ใช้เวทอ่อนๆสัก 4 - 12 ปอนด์กำลังสนุกครับ ถ้าใช้ป็ปเปอร์พ่วงซาบิกิก็ใช้เวทแข็งขี้นมาได้ครับ

การเซ็ตเบรคแค่หนืดๆก็พอครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตก  ช่วงเช้าและช่วงบ่ายเป็นต้นไปปลาจะกัดดีมากครับจนถึงเย็น

การประกอบอาหาร  ปลาชนิดนี้มีกลิ่นคาวจัดและก้างฝอยจำนวนมาก ไม่นิยมบริโภคกัน บางท่านนำมาบั้งถี่ๆให้ก้างขาดและมาทอดกรอบ ข่าวมาว่าอร่อยดีเหมือนกันครับ





14.ปลากราย ปลาตือ    เป็นปลาวงศ์เดียวกันผมเลยจับเอามาไว้ด้วยกันครับ หากินในระดับความลึกกลางน้ำถึงหน้าดิน มีเหงือกที่คมมากในการตกมันควรใช้สายลีด

เหยื่อที่ใช้   เป็นปลั๊กดำลึก สีเงินเงาจะได้ผลดีในเวลาแสงน้อยมันจะดึงดูดความสนใจของปลาได้ดี แอคชั่นไม่ต้องเร็วมากนะครับ หัวจิ๊กปลายางก็ใช้ได้ผลดีไม่แพ้กัน  และยังมีเหยื่อกุ้งปลอมใช้จิ๊กตามตอก็ได้ผลดีครับ เราจะรู้ตำแหน่งได้จากการขึ้นน้ำของมันครับ

ทำเลที่เหมาะ  ตามตอไม้ล้มใต้น้ำ ปากคลองต่างๆ ตอม่อสะพาน

คันเบ็ดที่เหมาะสม  เวทสัก 10 - 17 ก็พอแล้วครับมันไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากมายอะไร

การเซ็ตเบรค ตึงมือหน่อยนะครับกันมันมุดตอ

ช่วงเวลาที่เหมาะในการตก  ได้ทั้งวันครับ แต่จะกัดดีมากในช่วงเย็นใกล้ค่ำ หรือตอนเช้า

การประกอบอาหาร  ปลากรายเป็นปลาเนื้อดีแต่มีก้างฝอยแทรกอยู่ในเนื้อจำนวนมาก นิยมแล่เอามาขูดเนื้อทำทอดมันปลากรายที่รสชาดดี หรือขูดเนื้อเอามาโขลกทำลูกชิ้น แกงเขียวหวานกินกับขนมจีน อร่อยมากครับ อีกเมนูเอาลูกชิ้นปลากรายมาผัดเผ็ดกับกระชายหั่นฝอย กับพริกไทอ่อน เชิงปลากรายเอามาทอดกระเทียมกินกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยที่สุดครับ




15.ปลาดุก   เป็นปลาที่หากินระดับหน้าดิน อยู่ในน้ำค่อนข้างตื้นริมตลิ่ง ออกหากินเวลากลางคืน กลางวันก็กินครับถ้าใกล้รังที่มันอยู่

เหยื่อที่ใช้  หัวจิ๊กปลายางเลยครับจิ๊กมาหน้าดินช้าๆ สังเกตุว่ามันอยู่ตรงไหนได้จากการขึ้นหายใจของมัน ชอบหากินใกล้ตลิ่งสีของเหยื่อสีอะไรก็ได้ครับไม่จำกัด เทกซัสริกก็ใช้ได้ผลดีครับ

ทำเลที่เหมาะ  ตามชายตลิ่งที่ระดับน้ำไม่ลึกนัก

คันเบ็ด เวทสัก 8 - 14 ก็พอครับ
การเซ็ตเบรค พอตึงมือนะครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตก  เย็นใกล้ค่ำจนถึงเช้าจะได้ตัวดีมาก กลางวันก็กินครับแต่นานๆจะได้สักตัว

การประกอบอาหาร  อาหารจากปลาชนิดนี้คงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วครับ ทั้งผัดเผ็ด แกงป่า ทอดราดพริก แกงเผ็ด อร่อยทั้งนั้นเลยครับ






16.สังกะวาด 17. ปั๊กเป้า ปลาสองชนิดนี้ ทั้งไม่นิยมมาบริโภค และอีกตัวกินไม่ได้ไม่ขอกล่าวถึงนะครับ แต่จะบอกว่ามันกัดเหยื่อปลอมเหมือนกัน ถ้าเอาแค่สนุกล่ะก็พอได้




18. ปลาบู่แดง หรือบู่ทราย   เป็นปลาที่หากินตั้งแต่ผิวน้ำบางช่วงเวลา กลางน้ำถึงหน้าดิน เป็นปลาที่เคลื่อนไหวช้า ชอบอยู่ตามตอ โพรงตอม่อสะพานหรือขอนไม้ล้มใต้น้ำ

เหยื่อที่ใช้  ตอนน้ำแรงมันจะไม่เคลื่อนไหว นอนอยู่กับโพรงเราต้องรู้ว่ามีตอตรงไหนมีโพรงตรงไหน แล้วหย่อนหัวจิ๊กปลายางลงไปจิ๊กสั้นๆช้าๆระดับหน้าดินแค่นี้ก็ได้ตัวมันแล้วล่ะครับ  ถ้าช่วงน้ำอ่อนเช่นหัวน้ำขึ้นหรือหัวน้ำลงมันจะออกหากิน ปลั๊กดำลึกก็ใช้ได้ผลดีเหมือนกันสีให้เหมือนลูกปลานะครับ แอคชั่นแบบช้าๆนิดนึง ปลายางก็จิ๊กมาช้าๆก็โดนแล้วครับ

ทำเลที่เหมาะสม  ท้ายประตูน้ำที่น้ำเดินอ่อนๆ ชายตลิ่งที่มีตอ ตอม่อสะพาน

คันเบ็ด เวทสัก 8 - 14 ก็พอแล้วครับ เคยตกได้ตัวใหญ่สุดไม่เกิน 3 โล 

การเซ็ตเบรค เอาแค่หนืดๆก็พอครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตก  น้ำอ่อนๆครับ หรือ หัวน้ำขึ้น หัวน้ำลงก็ได้

การปรกอบอาหาร   ปลาบู่เป็นปลาเนื้อดีอีกตัว สมัยก่อนไม่นิยมกินกันมักเรียกว่าอีเอื้อยตามความเชื่อในนิทานพื้นบ้านเรื่องปลาบู่ทองของชาวบ้าน มาสมัยนี้ไม่เหลือแล้วล่ะครับ ส่งออกไปภัตตาคารจีนก็มาก  เป็นปลาเนื้อละเอียดครับ  มาต้มยำก็อร่อย นึ่งซีอิ๊ว และอีกหลากหลายเมนูล้วนน่ากินทั้งนั้นครับ



วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

Alien Species


 Alien Species คือ?


Alien Species คือ ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานไม่ใช่เอเลี่ยนที่อยู่ในภาพยนตร์แต่มันมาเพื่อ รุกรานเหมือนกัน กำลังถูกพูดถึงบ่อยมากในระยะหลัง ตั้งแต่พบการแพร่ระบาดของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในจำนวนมากจนน่าตกใจ ซึ่งผลทำให้สิ่งมีชีวิตในท้องถื่นลดจำนวนลงเกือบสูญพันธุ์ ปัญหาดังกล่าวสร้างความวิตกให้คนทั่วโลก แม้แต่ประเทศไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ แต่หากปล่อยให้ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกรานต่อไป เกรงว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตในประเทศได้ในเวลาไม่นาน



หลายคนยังคงมีความสงสัยเกี่ยวกับว่าชนิดพันธุ์ต่างถิ่นคืออะไร ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานคืออะไร เมื่อทำการศึกษาค้นคว้าก็พบว่า ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น (Introduced species or Exotic species) คือ ชนิดพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยปรากฎในเขตชีวภูมิศาสตร์หนึ่งมาก่อน แต่ถูกนำมาแพร่กระจายมาจากที่อื่นด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง และสามารถดำรงชีวิต สืบพันธุ์ได้ในพื้นทีนั้น



ส่วน”เอเลี่ยนสปีชีย์ “(Invasive species or Alien species) คือ ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นฐานและสามารถยึดครองจนเป็นชนิดเด่นในพื้นที่ และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขอนามัยของประชาชนด้วยหากไม่มีการควบคุมและจัดการอย่างเหมาะสม




ชนิด พันธุ์ต่างถิ่นแต่ละชนิดมีถิ่นอาศัยที่มีความเฉพาะตัวในด้านการกระจายทาง ภูมิศาสตร์ ซึ่งการแพร่กระจายของมันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร สภาพภูมิประเทศและสิ่งที่อยู่แวดล้อมต่างๆ ที่ได้ปรับตัวให้เหมาะสมแล้ว ซึ่งเวลาในการปรับตัวอาจจะใช้เวลานานนับพันปีขึ้นไป แต่เมื่อไรที่มีการนำเอาสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆออกมาจากถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม ของมัน และนำไปปล่อยยังพื้นที่อื่นที่ไม่เคยมีสัตว์ชนิดนั้นมาก่อน สิ่งมีชีวิตนั้นก็จะกลายเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นซึ่งอาจจะมีผลกับการเป็นอยู่ ของตัวมันเองเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ผิดไปจากเดิม หรืออาจมีผลกับแหล่งน้ำหรือสิ่งมีชีวิตเดิมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น

ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ



1) ประเภทที่ไม่รุกราน ชนิด พันธุ์ที่ไม่มีผลกระทบต่อสิง่มีชีวิตอื่นๆ หรือระบบนิเวศโดยตรงหรือชัดเจนนัก ดำรงชีวิตแบบไม่แข่งขันหรือขัดต่อต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นหรือ สมดุลของนิเวศ ตัวอย่างเช่น ปลานิล ปลาไน และปลาจีน รวมถึงปลาเศรษฐกิจต่างๆที่มีการปล่อยลงแหล่งน้ำ ส่วนอีกประเภทคือ




2) ประเภทที่รุกราน เป็นชนิดที่แพร่พันธุ์ได้รวดเร็วและมีความสามารถในการปรับตัวแข่งขันแทนที่ ชนิดพันธุ์พื้นเมืองได้ดี และยังมีการดำรงชีวิตที่ขัดขวางหรือกระทบต่อสมดุลนิเวศทำให้เกิดการเปลี่ยน แปลงองค์ประกอบชนิดพื้นเมือง หรืออาจเป็นศัตรูต่อผลผลิตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางเกษตรได้ ตัวอย่างเช่น ปลากดเกราะ ปลาดุกแอฟริกัน(ปลาดุกรัสเซีย) และหอยเชอร์รี่



สิ่ง มีชีวิตต่างถิ่นที่มีการแพร่กระจายมากที่สุดคือสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์น้ำ การที่สัตว์ต่างถิ่นจะเข้าไปอาศัยในธรรมชาติได้นั้นเกิดจากการกระทำของ มนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมได้ 2 วิธีใหญ่ๆคือ โดยไม่ตั้งใจ เช่นการหลุดหนีจากที่เลี้ยง อุบัติเหตุขณะขนส่ง และภัยธรรมชาติจนทำให้ที่เลี้ยงพังทลาย ส่วนโดยตั้งใจ เป็นการปล่อยเพื่อวัตถุประสงค์ของมนุษย์โดยตรง เช่น เพื่อการทำบุญตามความเชื่อ ปล่อยทิ้งเนื่องจากเบื่อที่จะเลี้ยง หรือประสบปัญหาขาดทุนในการเพาะเพื่อการค้า การปล่อยทิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมจากเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่นำ เข้าและครอบครองอย่างผิดกฏหมาย การปล่อยโดยหน่วยงานราชการเองเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการเพิ่มผลผลิตแหล่งน้ำ ในธรรมชาติและที่ถูกสร้างขึ้น หรือการปล่อยตามพิธีการและโครงการต่างๆ



ใน ปัจจุบันได้มีการนำเข้าสัตว์และพืชต่างถิ่นเข้ามาเพาะเลี้ยงในประเทศไทยมาก มายหลากหลายชนิด บางชนิดนำเข้ามาเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอาหาร บางชนิดนำเข้ามาเพื่อใช้ในด้านการสันทนาการ และเมื่อเลิกเลี้ยงหรือโดยอุบัติเหตุก็มักหลุดกระจายไปไปยังแหล่งน้ำ ป่าบริเวณใกล้เคียงทำให้ปะปนกับสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองในธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรและระบบนิเวศของประเทศ


จากการสำรวจของนักวิชาการพบว่าสัตว์ต่างถิ่นที่พบในเมืองไทยมีสัตว์ต่างถิ่น มากกว่า 3500 ชนิด ส่วนมากจะเป็นสัตว์น้ำ และพืชต่างถิ่นมี 14 ชนิด โดยมี 7 ชนิดอยู่ในบัญชีของพืชต่างถิ่นที่ร้ายแรงของโลกประกอบด้วย ผักตบชวา ไมยราบยักษ์ หญ้าคา อ้อ ขี้ไก่ย่าน ผกากรอง และกระถิ่นยักษ์



เมื่อ สัตว์ต่างถิ่นหลุดเข้าไปอยู่ในถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติจะส่งผลกระทบทั้ง ทางตรงและทางอ้อม ผลกระทบทางตรงเป็นผลกระทบเห็นได้ชัดเจนและรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น จากการแพร่พันธุ์สร้างประชากรอย่างรวดเร็วและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม สร้างผลกระทบต่อสมดุลนิเวศ ได้แก่



-เป็นผู้ล่าต่อสัตว์พื้นเมืองเดิม (Predator) มักเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่หรือมีการรวมฝูง ทำให้จำนวนชนิดเปลี่ยนแปลงและก่อผลเสียต่อสมดุลนิเวศในภายหลัง เช่น ปลาดุกรัสเซีย



-เป็นตัวแก่งแย่ง (Competitor) โดยเป็นผู้แก่งแย่งถิ่นที่อยู่อาศัย อาหารและพื้นที่สืบพันธุ์ ทำให้ชนิดที่อ่อนไหวสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ เช่น ปลานิล ปลาPeacock Bass ปลาหมอบลัตเตอร์




-นำโรคหรือปรสิต (Disease and parasite carrier) สัตว์บางชนิดมีโรคหรือปรสิตเดิมที่มันสามารถทนทานได้ดีอยู่แล้ว แต่สัตว์พื้นเมีองไม่มีความต้านทานดังกล่าว เมื่อเข้าไปอยู่อาศัยอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคระบาดและปรสิตได้ เช่น ปลาจีนเป็นพาหะนำโรคหนอนสมอและราปุยฝ้าย หอยเชอร์รี่เป็นพาหะกลาง (Intermediate Host) ของพยาธิ Angiostoma มาสู่มนุษย์



-รบกวนหรือทำลายสภาพนิเวศ (Habitat Disturbance) สัตว์บางชนิดเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า เมื่อองค์ประกอบระหว่างผู้ล่าและผู้ถูกล่าเกิดการเปลี่ยนแปลงจากการเพิ่ม เข้ามาของสัตว์ต่างถิ่น สมดุลทางนิเวศวิทยาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงส่งผลระยะยาว ตัวอย่างเช่นหอยเชอร์รี่ที่กัดกินต้น ใบอ่อนจนหมดและเกิดการเปลี่ยนสังคมพืชในแหล่งน้ำทำให้ความหลากหลายของสัตว์ น้ำลดลงในเวลาต่อมา



-ก่อการเสื่อมทางพันธุกรรม (Genetic pollution, Erosion) สัตว์ ต่างถิ่นบางชนิดมีลักษระพันธุกรรมใกล้เคียงกับสัตว์พื้นเมืองจนอาจมีการผสม ข้ามพันธุ์เกิดเป็นลูกผสม ทำให้ลูกที่ออกมามีอัตราการรอดต่ำและเป็นหมันในรุ่นต่อ ความหลากหลายทางพันธุกรรมเดิมเสื่อมลง เช่น ปลาดุกรัสเซียและลูกผสม(ปลาดุกบิ๊กอุย) ที่มีการปนเปื้อนกับพันธุกรรมของปลาดุกด้านหรือปลาดุกอุย เป็นต้น