+
- 1. ปลากดคัง
ปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macrones wyckioides(เดิมMystus wyckioides)
อยู่ใน "วงศ์ปลากด">วงศ์ปลากด (Bagaridae) ที่มีขนาดโตเต็มที่ราว 1.5
เมตร หนักได้ถึง 100 ก.ก. แต่ที่พบโดยเฉลี่ยจะมีขนาดประมาณ 50 - 60 ซม.
ลำตัวมีสีเทาอ่อนอมฟ้าหรือเขียวมะกอก ท้องสีจาง
ครีบ
หางและครีบอื่น ๆ มีสีแดงสดหรือส้มสด
ไม่มีแถบขาวบนขอบครีบหางส่วนบนเหมือนปลากดชนิดอื่น ๆ
พบในแม่น้ำของไทยทุกภาค และในแหล่งน้ำนิ่งขนาดใหญ่
นิยมนำมาบริโภคโดยการปรุงสด ลวก จิ้ม หรือยำ มีราคาค่อนข้างแพง
มีการเพาะเลี้ยงเป็นกระชังอยู่ริมแม่น้ำสายใหญ่บางสาย
และยังเลี้ยงเป็นปลาสวยงามได้อีกด้วย กดคังมีชื่อเรียกอื่น อีกเช่น
"ปลากดแก้ว" "ปลากดเขี้ยว" กดหางแดง กดข้างหม้อ เป็นต้น
ปลา
กดคังเป็นปลาที่มีลักษณรูปร่าง ยาวเพรียว ส่วนหัวแบนกว้าง
ด้านบนของหัวเรียบ ลำตัวด้านบนมีสีม่วงเทาปนดำ ส่วนท้องขาว ปากกว้าง
จงอยปากทู่ ตำแหน่งของปากตั้งอยู่ต่ำ ฟันคม ตาไม่มีเยื่อหุ้ม
และอยู่ระดับเดียวกับมุมปาก มีหนวด 4 คู่ คือหนวดที่จมูกค่อนข้างสั้น
ยาวถึงกึ่งกลางตาเท่านั้น หนวดที่ขากรรไกรยาวเลยครีบหลังเกือบถึงครีบไขมัน
โคนหนวดใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่กว่าคู่อื่นอย่างเห็นได้ชัด
หนวดใต้คาง และหนวดที่ขากรรไกรล่างยาวถึงฐานครีบอก ครีบหลังมีก้านครีบแข็ง 1
ก้าน มีก้านครีบอ่อน 7-8 ก้าน
ก้านครีบแข็งอันแรกของครีบหลังทางส่วนครึ่งล่างของโคนก้านแข็ง
มีเงี่ยงแหลมคม แต่ทางส่วนครึ่งบนอ่อน
ทำให้ไม่สามารถทำอันตรายต่อคนหรือสัตว์อื่นได้
ครีบอกประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 1 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8-9 ก้าน
ครีบท้องประกอบด้วย ก้านครีบอ่อน 6 ก้าน ครีบก้นประกอบด้วยก้าน
ครีบอ่อน 10-11 ก้าน มีซี่กรองเหงือก จำนวน 12 ก้าน ครีบหูมีสีเทาดำ
ครีบหางเว้าลึก แฉกบนยาวกว่าแฉกล่าง ครีบหางมีสีแดงเข้มมากกว่าครีบอื่น ๆ
ส่วนหน้าของครีบท้องและครีบก้นมีสีขาวปนเหลือง ปลายครีบสีแดง
ครีบไขมันมีสีเข้มออกม่วงอมดำ
ปลา
กดคังจัดเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในครอบครัวนี้ในธรรมชาติส่วน
ใหญ่พบปลาขนาดตั้งแต่ 1-3 กิโลกรัม ความยาว 30-50 เซนติเมตร
ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพบมีขนาดความยาวถึง 150 เซนติเมตร น้ำหนัก 30 กิโลกรัม
และเคยมีผู้พบปลาขนาดน้ำหนักสูงสุด 70 กิโลกรัม
+++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++
ปลาหนังชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hemibagrus micropthalmus อยู่ในวงศ์ปลากด(Bagridae) มีรูปร่างคล้ายปลากดเหลือง (Hemibagrus filamentus) และปลากดคัง (Hemibagrus wyckioides)
มาก แต่มีส่วนหัวที่แบนราบกว่า และยื่นยาวกว่า ส่วนหลังยกสูง
ครีบหลังเป็นก้านแข็ง ปากกว้าง มีหนวดที่ริมฝีปากยาวมากถึงบริเวณครีบก้น
ตาเล็กมาก
ส่วน
หัวมองจากด้านบน ค่อนข้างกว้าง ครีบไขมันยาว ครีบหางใหญ่ และเว้าลึก
ตัวมีสีเทาอมฟ้า หรือเขียวมะกอก ด้านท้องสีจาง ครีบมีสีคล้ำ ครีบหางสีคล้ำ
ขนาดใหญ่สุดถึง 1 เมตร พบทั่วไป 60 – 70 เซนติเมตร จับได้โดยเบ็ดราว
ข่ายลอย และดำน้ำยิงด้วยฉมวก อาศัยในแม่น้ำและลำธารที่ค่อนข้างลึก
พบเฉพาะในแม่น้ำสาละวินและสาขา และถูกจับขึ้นขายเป็นครั้งคราวใน
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นปลาที่มีรสชาติดี
เช่นเดียวกับปลากดขนาดใหญ่ชนิดอื่นๆ และนิยมตกเป็นเกมกีฬา
ในต่างประเทศพบในอินเดียและพม่าในแม่น้ำอิระวดี
+++++++++++++++++++++++++++++
เป็นชื่อของปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hemibagrus filamentus (เดิม Mystus nemurus) อยู่ในวงศ์ปลากด (Bagaridae) มีรูปร่างคล้ายปลากดคัง แต่มีรูปร่างเล็กกว่า
สีข้างลำตัวเป็นสีเหลือง จึงเป็นที่ของชื่อ ขนาดโตเต็มที่ราว 50 ซ.ม.
พบ
ในแหล่งน้ำนิ่งและแม่น้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ยกเว้นแม่น้ำสาละวิน
บริโภคโดยการปรุงสด รมควัน และปลาแห้ง
และมีการเพาะเลี้ยงในกระชังเหมือนปลากดคัง
มีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก เช่น "ปลากดช่องหลวง" "ปลากดนา" "ปลากดขาว" หรือ "ปลากดคัง" เป็นต้น
ลักษณะที่แตกต่างระหว่าง ของHemibagrus filamentusกับHemibagrus nemurus
ลักษณะที่แตกต่างระหว่าง ของHemibagrus filamentusกับHemibagrus nemurus
ถ้า
ครีบหลังไม่ถึงจุดเริ่มต้นของครีบไขมันก็เป็นปลากดเหลือง Hemibagrus
nemurusครับ ขอบคุณน้าจิรชัยจากเวปสยามฟิชชิ่งที่ให้ความรู้วิธีการแยก 2
ชนิดนี้ครับ
+++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++
เป็น
ชื่อปลาน้ำจืดไม่มีเกล็ดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hemibagrus wyckii
(เดิม Mystus wyckii) มีรูปร่างค่อนข้างสั้นป้อม
หัวและลำตัวตอนหน้าแบนราบกว่าปลาชนิดอื่น ๆ ปากกว้าง ตาค่อนข้างเล็ก
ส่วนหลังยกสูง ครีบหลังมีก้านแข็ง ครีบไขมันค่อนข้างยาว
หนวดที่ริมฝีปากยาวถึงบริเวณหลัง ตัวมีสีเทาคล้ำหรือดำ ด้านท้องสีจาง
ครีบสีคล้ำขอบบนและขอบล่างของครีบหางมีแถบสีขาวเห็นชัดเจน
มี
ขนาดประมาณ 30 ซ.ม. ใหญ่สุด 70 ซ.ม. พบในแม่น้ำสายใหญ่ทุกภาคของประเทศ
และพบไปถึงบอร์เนียว เป็นปลากดที่มีราคาสูงชนิดหนึ่ง
นิยมบริโภคด้วยการปรุงสดเหมือนปลากดคัง
และยังเลี้ยงเป็นปลาสวยงามได้อีกด้วย ปลากดหม้อ
ยังมีชื่อเรียกที่ต่างออกไปเช่น ปลากดดำ, ปลาสิงห์ดำ, ปลากดหางดอก
ชื่อที่ใช้เรียกในวงการปลาสวยงามคือ"มรกตดำ"แต่มีนิสัยดุร้ายก้าวร้าวมาก ไม่สามารถเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นได้เลย
+++++++++++++++++++++++++++++
เป็นปลาหนังมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sperata acicularis(อดีตAoriichthys seenghala)
ใน วงศ์ปลากด(Bagridae)มีลักษณะสำคัญ คือ ส่วนหัวและจะงอยปากยื่นยาวมากที่สุดในกลุ่มปลากดทั้งหมด หัวแบนราบเล็กน้อย ลำตัวทรงกระบอก แต่ด้านหลังยกสูง และเรียวไปทางด้านท้าย ตาเล็กอยู่ด้านบนของหัว ริมฝีปากตัดตรงอยู่ปลายสุดของจะงอยปาก หนวดที่ริมฝีปากยาวมาก ครีบหลังไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบไขมันยาวมาก ครีบหางใหญ่เว้าลึก ตัวมีสีเทาอมฟ้า หรือเขียวอ่อน ด้านท้องสีจาง ครีบสีจาง ครีบไขมันมีดวงสีดำเด่น ขอบขาวที่ตอนปลายท้ายสุด ครีบหางมีสีแดงเรื่อ ๆ
ใน วงศ์ปลากด(Bagridae)มีลักษณะสำคัญ คือ ส่วนหัวและจะงอยปากยื่นยาวมากที่สุดในกลุ่มปลากดทั้งหมด หัวแบนราบเล็กน้อย ลำตัวทรงกระบอก แต่ด้านหลังยกสูง และเรียวไปทางด้านท้าย ตาเล็กอยู่ด้านบนของหัว ริมฝีปากตัดตรงอยู่ปลายสุดของจะงอยปาก หนวดที่ริมฝีปากยาวมาก ครีบหลังไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบไขมันยาวมาก ครีบหางใหญ่เว้าลึก ตัวมีสีเทาอมฟ้า หรือเขียวอ่อน ด้านท้องสีจาง ครีบสีจาง ครีบไขมันมีดวงสีดำเด่น ขอบขาวที่ตอนปลายท้ายสุด ครีบหางมีสีแดงเรื่อ ๆ
ขนาด
พบใหญ่สุดถึง 1 เมตร ขนาดที่พบทั่วไป 50 เซนติเมตร จับได้โดยเบ็ดราว
ข่ายลอย พบเฉพาะในแม่น้ำสาละวิน และสาขาและแม่น้ำตะนาวศรีในพม่า
นิยมบริโภคในท้องถิ่นโดยปรุงสด มักถูกจับขึ้นขายในท้องตลาดของ จ.แม่ฮ่องสอน
และ อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นครั้งคราว
เนื้อ
มีรสชาติดีพบมีการทำรังวางไข่โดยขุดแอ่งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง1เมตร
และเลี้ยงลูกอ่อนถึงขนาด3–4 เซนติเมตร หรืออาจจะใหญ่กว่า
แต่ตัวผู้หรือตัวเมียเป็นผู้เลี้ยงยังไม่ทราบแน่ชัด
รังที่พบอยู่ในระดับความลึกประมาณ 2 เมตร ในเดือนเมษายน
ที่แม่น้ำปายมีพื้นเป็นทรายปนโคลนมีกรวดปนและใกล้กับกองหิน
+++++++++++++++++++++++++++++
ปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bagrichthys obscurus (อดีต Bagrichthys macropterus)
อยู่ในวงศ์ปลากด (Bagaridae) มีส่วนหัวสั้น จะงอยปากเล็ก ตาเล็กมาก
มีหนวดสั้น 4 คู่ คู่ที่อยู่ด้านล่างจะเป็นเส้นแบนบิดเป็นเกลียว
ริมฝีปากเล็กเป็นจีบ ลำตัวแบนข้างเล็กน้อย ส่วนหลังยกสูง ครีบหลังสูง
ครีบไขมันยาวมาก ครีบหางเว้าลึก
ครีบหลังยกสูงและครีบอกแข็งเป็นก้านแข็งปลายคม ตัวมีสีคล้ำหรือน้ำตาลอ่อน
ด้านท้องสีจาง บางตัวอาจมีแถบเฉียงสีจางพาดขวางลำตัว ครีบสีจาง หางใส
มีขนาดประมาณ 15 ซ.ม. พบใหญ่ที่สุด 30 ซ.ม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น